หลายคนอาจจะยังไม่รู้ แต่การเติมน้ำมันเครื่องเยอะเกินนั้นมีผลเสียหลายๆ อย่าง (อ่านที่ผมเคยเขียนไว้เรื่องผลเสียจากการเติมน้ำมันเครื่องเกินได้) และหนึ่งในนั้นก็คือการกินน้ำมัน ถ้ารถคุณเพิ่งไปเข้าศูนย์มาแล้วรู้สึกว่ารถกินน้ำมันมากขึ้น เคยวิ่งได้ 16-17 กิโล/ลิตร พอเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแล้วกลับได้ไม่ถึง ให้ลองเช็คระดับน้ำมันเครื่องก่อนเลย ซึ่งถ้าเติมเยอะเกินละก็ ดูดออกดีกว่า และในโพสนี้ผมมีวิธีดูดน้ำมันเครื่องออกแบบง่ายๆ ไม่ต้องยกรถมาแชร์ครับ
ทำไมถึงเติมน้ำมันเครื่องเกิน
ปกติรถผมคันนี้ ไม่ค่อยได้วิ่งบ่อย ปีหนึ่งวิ่งวิ่งยังไม่ถึง 10000 km เลย แต่น้ำมันเครื่องนั้นมีการเสื่อมสภาพถึงจะไม่ได้วิ่ง ผมเลยมักจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเองก่อนเอาไปเช็คระยะเสมอๆ แต่ครั้งนี้ศูนย์เติมให้เยอะเกิน เข้าใจว่าคงยกเทหมดแกลลอน 4.2L เลย พอไปรวมกับน้ำมันเก่าที่ติดอยู่ในเครื่อง ทำให้รวมแล้วมันเยอะเกินไป วัดแล้วเกินขีด Full มาตามรูป (ซึ่งที่รู้ตัวเพราะออกมาจากศูนย์แล้วรู้สึกรถกินน้ำมันขึ้นประมาณ 1-2 กิโล/ลิตร)
จากรูปจะเห็นว่าเลยขีด full ไปเกือบครึ่งเซนติเมตร ดังนั้นเป็นอุทาหรณ์ว่า เอารถออกจากศูนย์มาต้องเช็คระดับน้ำมันเครื่องด้วย ว่าเติมขาดหรือเกินไปหรือไม่ บางครั้งช่างอาจจะพลาดไป
วิธีดูดน้ำมันเครื่องออก
ใช้สายยางเล็กๆ แบบสายเดียวกับสายอากาศในตู้ปลาหรือโหลปลาทอง ตัดปลายให้เฉียงนิดหน่อย อย่าเฉียงมากเพราะมันจะบางเกิน ทำให้อ่อน ใส่ไม่เข้าและอาจไปฉีดขาดอยู่ในเครื่องได้ ซึ่งเรื่องใหญ่เลย
ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออก แล้วใส่สายยางลงไป สายที่ใช้ต้องยาวพอสมควร สักเมตรกว่าๆ กำลังดี อ่อ! ก่อนใส่อย่าลืมเอาผ้าเช็ดทำความสะอาดสาย อย่าให้มีสิ่งสกปรกอะไรติดเข้าไป บางคนอาจสงสัยว่าทำไมไม่ใส่เข้าทางช่องเติมน้ำมันเครื่องที่อยู่ติดกัน คือช่องนั้นจะเปิดไปเจอเครื่องยนต์เลย เอาไว้เติมน้ำมันเครื่องอย่างเดียว เราสอดสายลงไปไม่ได้ เพราะจะติดชิ้นส่วนต่างๆ
จากนั้นเอาปลายสายอีกด้านมาต่อกับขวดแชมพูหรือสบู่ที่เป็นแบบปั๊ม ของผมโชคดีว่าสายยางมันสอดเข้าไปในท่อหัวปั๊มได้พอดีเลยไม่ต้องดัดแปลงอะไร
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว ค่อยๆ ดันสายเข้าไปในช่องวัดน้ำมันเครื่องเรื่อยๆ หากรู้สึกว่าไปติดอะไรเข้า ให้ขยับเข้าออกเบาๆ เพื่อให้ปลายสายมุดลงไปได้ต่อ
เมื่อใส่สายเข้าไปได้สัก 60-70 cm ลองกดหัวปั๊มดูว่า มีน้ำมันเครื่องออกมาไหม ถ้าไม่มีให้ดันสายลงไปต่อเรื่อยๆ ถ้ารู้สึกเหมือนไปติดอะไรก็ไม่ต้องตกใจ ค่อยๆ ขยับเข้าออกเบาๆ แล้วก็จะดันสายลงไปได้ต่อ แต่ถ้ากดปั๊มแล้วน้ำมันออกมา ก็เอาขวดมารองได้เลย
ถามว่าดูดแล้วจะรู้ได้ไงว่าพอแล้ว ใช้กะเอาครับ คือปริมาณน้ำมันเครื่องในรถจะมีอยู่ประมาณ 4-5 ลิตร ถ้าเราวัดแล้วเค้าเติมมาเยอะเกิน อย่างเช่นของผมประมาณครึ่งเซนติเมตร ก็ลองดูดออกสัก 150 ml ซึ่งขวดแชมพูที่ผมใช้มันขนาด 500 ml ก็คือต้องดูดออกประมาณ 1/4 ขวด ยังไงก็ตามอย่าดูดเกิน (เพราะน้ำมันเครื่องที่ดูดออกมาแล้วถือว่าสกปรกแล้ว ไม่ควรเติมกลับลงไป)
จากนั้นลองวัดดู ถ้ายังเกินอยู่ก็ให้ผ้าเช็ดสายด้านนอก (เพราะตอนดึงออกมา สายจะเปื้อนฝุ่น) แล้วเริ่มดูดใหม่จนพอดีขีด full
เสร็จแล้ว ผลได้เป็นที่น่าพอใจ รถของผมก็มีอัตราสิ้นเปลืองกลับมาเป็นปกติอย่างที่เห็นในรูป คือวิ่งไปจังหวัดใกล้ๆ ใช้ความเร็วประมาณ 90-100 km/h มีรถติดบ้างบางช่วง (รถมาสด้า cx-3 เครื่อง 2000 cc) เฉลี่ยแล้วได้ 19.8 กิโล/ลิตร (ก่อนดูดจะอยู่ที่ 18 กว่าๆ ทั้งที่ลมยางและน้ำหนักสัมภาระเท่ากัน) ยิ่งช่วงไหนที่วิ่งแค่ 80 km/h นี่อัตราสิ้นเปลืองได้ถึง 22-23 กิโล/ลิตรเลยด้วยซ้ำ
อย่าลืมติดตามบทความจากบล็อกนี้จากได้ทาง Facebook Page บล็อกนายช่าง และกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมมีแรงทำบล็อกนี้ต่อไปด้วยนะครับ
