voicemeeter สอนวิธีใช้

ถ้าคุณดู YouTube บ่อยๆ คุณจะสังเกตว่าหลายๆ ช่องทำไมไมค์เค้าเสียงดีจัง เสียงพูดก็มีเบสทุ้ม แถมยังชัดใสครบทุกรายละเอียด ยังกับอัดในห้อง Studio ถ้าเราจะทำให้เสียงดีแบบนั้นบ้างต้องทำยังไง ในโพสนี้ผมจะมีวิธีการตั้งค่าไมค์ในคอมให้เสียงดีด้วยการใช้โปรแกรมช่วยปรับเสียง รวมไปถึงการปรับแต่งไฟล์เสียงเพื่อลด noise และเพิ่มความชัดแบบง่ายๆ ด้วยตัวเอง ลองอ่านกันดูได้ครับ

ชนิดของไมค์

ไมโครโฟนนั้นมี 2 ประเภท คือ Dynamic (ไม่ต้องใช้ไฟเลี้ยง) และ Condenser (ต้องใช้ไฟเลี้ยง) ซึ่งการอัดเสียงให้ใสครบทุกรายละเอียดจะนิยมใช้แบบหลัง เพราะไมค์ Condenser มีความไวต่อเสียงมาก สามารถเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยได้ดี (จึงควรอัดในที่เงียบๆ) แต่ข้อเสียคือราคาแพงกว่าแบบ Dynamic มาก ยังไงก็ตาม ถ้าคุณจริงจังกับการอัด ควรหาซื้อไมค์ Condenser สักตัว ซึ่งในปัจจุบันราคาลดลงมาเยอะแล้ว ราคาไม่ถึงพันก็มี แต่ที่สำคัญมากคืออย่าซื้อ Condenser ไมค์แบบถูกๆ ที่หัวต่อเป็นแบบ 3.5mm (เสียบเข้ากับช่องด้านหลังคอมได้เลย) เพราะมันจะไม่มีไฟเลี้ยงพอ เวลาอัดจะได้เสียงเบามาก พอเร่งเสียงแล้วจะเกิด Noise เยอะ อย่างน้อยให้ซื้อแบบที่ต่อเข้า USB ก็ยังดี แต่ถ้ามีงบเหลือ ให้ซื้อ pre-amp สักตัวเพื่อจ่ายไฟให้กับไมค์ก่อนต่อเข้าคอม จะดีที่สุด

ตัวนี้คือไมค์ Condenser ของ Nubwo ไมค์ยอดนิยมของผู้เริ่มต้น ราคา 700 กว่าพร้อมขาตั้ง แต่รุ่นที่หัวเสียบเป็นแบบ 3.5mm ไม่ควรซื้อ ให้ซื้อที่หัว USB แทน (ยกเว้นแต่คุณจะต่อมันเข้ากับ pre-amp ก่อนเข้าคอม) ลองฟังเสียงในคลิปนี้

condenser-mic-2

ส่วนตัวนี้คือไมค์ Condenser จิ๋วแบบต่อ USB เข้าคอมได้เลย (Samson Go Mic) ตัวเดียวจบ ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่ม ราคาประมาณพันกว่าๆ ลองฟังเสียงในคลิปนี้

condenser-mic-1

และตัวนี้คือตัวที่ผมใช้ประจำ Samson C01 ต้องมี pre-amp เพื่อต่อเข้าคอม ราคา 2 พันกว่าๆ เสียงค่อนข้างดี ลองฟังได้ในคลิปนี้

สำหรับ pre-amp ที่ผมใช้คือ Focusrite Scarlett Solo ลองอ่านรีวิวที่ผมเขียนไว้ได้ครับ

การตั้งค่าไมค์ให้เสียงดี

ไมค์ที่ผมใช้อัดเสียง ถึงแม้จะให้เสียงที่ดีระดับหนึ่ง แต่ก็ยังต้องมาผ่านโปรแกรมเพื่อปรับ EQ รวมถึงปรับแต่งตอนสุดท้ายอยู่ดีเพื่อตัดเสียงรบกวนออก และทำการ compress เสียง

ซึ่งโปรแกรมปรับ EQ เสียงที่นิยมใช้กันก็คือ VoiceMeeter (ไม่ได้พิมพ์ผิดนะ) โปรแกรมนี้จะทำหน้าจำลองการปรับแต่งเสียงของไมค์เรา เหมือนกับ Mixer ตัวหนึ่งเลย วิธีใช้ก็ไม่ยาก แค่ Download โปรแกรมมาลง หลังจากที่ลงเสร็จ เราจะได้ Virtual Mic มาอีกตัวชื่อว่า VoiceMeeter Output โดยถ้าเราคลิกขวาที่ icon ลำโพงตรง System Tray แล้วเลือก Sound > Recording ก็จะเห็น

สิ่งที่เราจะทำก็คือ ตั้งค่าให้เสียงเข้าจากไมค์ ไปผ่านตัวโปรแกรม VoiceMeeter ก่อน จากนั้นโปรแกรมจะส่งเสียงที่ผ่านการปรับแต่งแล้วไปยัง VoiceMeeter Output ซึ่งโปรแกรมอื่นๆ จะมองเห็นมันเป็นไมค์ตัวหนึ่งและเอาไปใช้ต่อได้เลย การทำงานก็จะเป็นดังนี้

Mic จริงของเรา -> โปรแกรม VoiceMeeter -> VoiceMeeter Output (ไมค์จำลอง) -> โปรแกรมอัดเสียง

วิธีการตั้งค่า อย่างแรกเลยให้คลิกขวาที่ไมค์จริงของเรา และเลือก Properties

จากนั้นลด Gain ลงเหลือประมาณ 50-60 วิธีนี้จะทำให้ลดเสียงรบกวนออกไป

จากนั้นไป Tab Advanced และเลือก Sample Rate การอัดตามรูป (ยิ่งมากยิ่งดี แต่ไฟล์จะใหญ่มากโดยไม่จำเป็น)

จากนั้นทำแบบเดียวกันกับ VoiceMeeter Output

หลังจากนั้นเปิดโปรแกรม VoiceMeeter ขึ้นมา หน้าตาก็จะประมาณนี้

สิ่งแรกที่เราจะทำก็คือเลือกไมค์ที่เป็น Input ก่อ โดยคลิกที่ตรงหมายเลข 1 และเลือกชื่อไมค์ของเราที่ขึ้นต้นด้วย WDM

จากนั้นตรง Hardware Out ให้กดตรง A1 และเลือกอุปกรณ์อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ลำโพงของเรา (ไม่งั้นเสียงจะออกมาตีกัน)

จากนั้นไปดูตรง Menu > Setting

ให้ตั้งค่าตามนี้

จากนั้นเราจะทดลองอัดเสียง โปรแกรมตัดต่อเสียงดีๆ ส่วนใหญ่จะแพง (เช่น Adobe Audition เป็นต้น) ดังนั้นเราจะใช้โปรแกรมฟรีที่ชื่อว่า Audacity ให้เปิดโปรแกรมขึ้นมา และเลือกไมค์เป็น VoiceMeeter Output และตรงลำโพงให้เลือก Speaker หรือลำโพงที่คุณใช้อยู่

จากนั้นลองกดอัดและฟังเสียงดู เราสามารถปรับ EQ ของเสียงได้โดยเลื่อนปุ่มสี่เหลี่ยมในโปรแกรม VoiceMeeter

วิธีใช้ Voicemeeter ปรับเสียง

หลังจากที่เราพอใจโทรเสียงแล้ว ขั้นตอนต่อไป เราจะทำการ Process หรือปรับแต่งเสียงให้มีความชัดใสยิ่งขึ้นไปอีกด้วยโปรแกรม Audacity

การปรับแต่งเสียงให้คมชัด

ในการอัดเสียง สิ่งที่เราจะทำหลักๆ มี 2 อย่างคือ ลดเสียงรบกวน และ Compress เสียงให้มีความนุ่มนวล ข้างล่างคือไฟล์เสียงตัวอย่างที่อัดมา

สิ่งแรกที่เราจะทำก็คือการลบ Noise ออก ให้เราใช้เมาส์ลากเพื่อเลือกส่วนของเสียงเวลาที่ไม่ได้พูดอะไร ยิ่งยาวเท่าไหรยิ่งดี (เวลาอัดเสียงควรอัดบรรยากาศในห้องเผื่อไว้สัก 10-15 วินาที) จากนั้นเลือก Effect -> Noise Reduction

จากนั้นกดปุ่ม Get Noise Profile เพื่อบอกโปรแกรมให้ทำการวิเคราะห์เสียงที่เราเลือก

จากนั้นให้กด Ctrl+A เพื่อเลือกทั้งไฟล์เสียง จากนั้นกด Ctrl+R เพื่อทำการลด Noise เป็นการเสร็จการลด Noise จริงๆ ไม่แนะนำให้ปรับค่า Noise Reduction dB เพิ่ม เพราะจะเกิดเสียงหอน

จากนั้นเราจะทำการ Compression คือการทำให้เสียงมีความสม่ำเสมอตลอดเท่ากัน เช่นบางครั้งเราพูดดังเกินไปหรือค่อยเกินไป โปรแกรมก็จะทำการเกลี่ยเสียงให้มีความนุ่มนวลขึ้น โดยให้กด Ctrl+A เพื่อเลือกทั้งหมดและกด Effect -> Compressor

ตรงนี้จะบอกว่าโปรแกรมตั้งมาให้ดีระดับหนึ่งแล้ว แต่ถ้าใครสนใจจะปรับให้ไปอ่าน Manual ได้เลย

หลัง Compress แล้วเราจะเห็นว่าเสียงจะมีความสม่ำเสมอกันทั่วทั้ง Track ถึงขั้นตอนนี้ก็คือเสร็จ ให้ลบเสียงส่วนเกินหัวท้าย แล้วก็กด File -> Export เพื่อ Save File เสียงตามต้องการ

ด้วยวิธีนี้ ต่อให้คุณใช้ไมค์ถูกๆ ก็ตาม เสียงจะดีขึ้นแบบเห็นได้ชัด และยิ่งถ้าคุณใช้ไมค์ดี และอัดเสียงให้ห้องเงียบๆ ละก็ บอกเลยว่าเสียงแจ่มมากๆ

อย่าลืมติดตามบทความจากบล็อกนี้จากได้ทาง Facebook Page บล็อกนายช่าง และกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมมีแรงทำบล็อกนี้ต่อไปด้วยนะครับ