รถรุ่นใหม่ๆ นี้หลังๆ ไม่ว่าจะเป็นรถยุโรปหรือรถญี่ปุ่นก็ตาม สิ่งหนึ่งในตารางดูแลรักษาที่จะคล้ายๆ กัน คือจะไม่มีการระบุให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ (Life Time) หรือบางเจ้าดีหน่อยอาจจะระบุให้เปลี่ยนทุก 100000 กิโล
หลายคนบอกว่าก็ดีแล้วนี่? เกียร์เค้าออกแบบมาดี ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันบ่อยๆ
ในความเป็นจริงอาจจะไม่ใช่แบบนั้น ถ้าใครคลุกคลีอยู่กับการซ่อมรถยนต์บ่อยๆ จะทราบดีว่า เกียร์เป็นส่วนประกอบที่ต้องรับแรงบิดจากเครื่องยนต์เพื่อส่งต่อไปยังเพลาขับ รวมถึงต้องรับแรงเสียดสีในระหว่างการเปลี่ยนเกียร์ตลอดเวลาการขับขี่ ดังนั้นจึงมีการสึกหรอเกิดขึ้นตลอดเวลา น้ำมันเกียร์ที่มีคุณภาพจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ในการยืดอายุการใช้งานเกียร์ ช่างหลายๆ คนที่ผมรู้จักบอกตรงกันหมดว่า ให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์บ่อยๆ อย่าขี้เหนียว เปลี่ยนทุก 20000 กิโลได้ยิ่งดี เพราะถึงแม้เกียร์จะเป็นระบบปิด แต่ด้วยความที่บ้านเราเป็นเมืองร้อน ฝุ่นเยอะ รถติด น้ำมันเกียร์จะเสื่อมสภาพเร็ว และยิ่งถ้าคุณขับรถเร็วเหยียบรอบสูงตลอด ยิ่งต้องเปลี่ยนบ่อยขึ้นอีก
แต่เนื่องจากการถ่ายน้ำมันเกียร์จะยากกว่าน้ำมันเครื่องนิดหน่อย ตรงที่ปริมาณต้องเป๊ะ ถ้าเติมเกินหรือขาดไปเกียร์อาจจะมีปัญหาได้ ดังนั้นการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์กับอู่ที่ได้มาตรฐานเขาจะใช้วิธีตวง คือถ่ายออกมาเท่าไหร เติมกลับไปเท่านั้น และวิธีที่ง่ายที่สุดที่หลายอู่นิยมใช้กันคือใช้ปั๊มดูดออกนั่นเอง การเปลี่ยนด้วยวิธีนี้ สะดวกและเร็วมากๆ เพราะเราไม่ต้องมุดเข้าไปขันน็อตใต้ท้องรถ ไม่มีปัญหารั่วซึมจากการขันน็อตไม่แน่น ไม่ต้องเปลี่ยนแหวนปะเก็น แถมตวงได้ง่ายกว่า เพราะเราควบคุมปั๊มดูดได้
ดังนั้นวันนี้ผมจะมารีวิวการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ด้วยตัวเองแบบวิธีการดูดครับ
ขั้นตอนการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์แบบดูดออก
สำหรับรถบางรุ่น (ในภาพคือมาสด้า) ที่ช่องเติมน้ำมันเกียร์อยู่ด้านล่างๆ อาจจะต้องมีการถอดกล่องดูดอากาศเข้าออก (Air Intake housing) เพื่อให้ทำงานสะดวก (จะไม่ถอดก็ได้ แต่มันเกะกะ ทำงานลำบาก)
สำหรับมาสด้า วิธีการถอดก็คือใช้ประแจเบอร์ 10 ถอดน็อตยึด 2 ตัวตรงเหนือหม้อน้ำ แล้วยกกล่องขึ้นมา
โอเคถอดกล่องอากาศเข้าออกแล้ว พื้นที่ทำงานสะดวกเลย
จากนั้นใช้ประแจเบอร์ 10 ขั้นน็อตยึดฝาปิดช่องเติมน้ำมันเกียร์
นี่คือหน้าตาของปั๊มดูดน้ำมันราคา 300 บาท ที่สั่งมาจาก Shopee ความจริงบางคนจะใช้ปั๊มอื่นๆ ก็ได้ แต่อันนี้เค้าแถมสายดูดแข็งๆ มาให้สะดวกดี แถมไม่ต้องเสียบปลั๊ก ใช้พ่วงเอากับแบตเตอรี่ได้เลย
ขั้นแรกเตรียมปั๊มเสียบสายดูดและสายน้ำทิ้งให้พร้อม และพ่วงเข้ากับแบตเตอรี่
เอาสายดูดเสียบเข้าไปในช่องน้ำมันเกียร์ จากนั้นเปิดสวิตช์ ปั๊มก็จะดูด จ๊วบๆๆๆๆๆ
น้ำมันเกียร์ในภาพคือประมาณ 25000 กิโลเท่านั้น แต่จะเห็นว่าสีดำแล้ว ลองคิดดูว่าถ้าลากไปถึงแสนกิโล จะเน่าขนาดไหน อ่อ ที่สำคัญอย่าลืมตวงด้วยนะครับว่าดูดออกมาเท่าไหร จะเติมกลับเข้าไปถูก
ถ้าเราดูดด้วยวิธีนี้จะได้น้ำมันเกียร์ออกมาประมาณ 3 ลิตร แต่ช้าก่อน เรามีเคล็ดลับ ให้ใช้แม่แรงยกรถด้านหลังขึ้น แล้วดูดต่อไป จะได้ออกมาอีก 1 ลิตร เท่ากับ 4 ลิตรพอดี
จากนั้นใช้กรวย เสียบเข้าไปที่ช่องเติมน้ำมันเกียร์และเติมน้ำมันใหม่เข้าไปอย่างช้าๆ ให้เท่ากับปริมาณที่เราดูดออกมา (สังเกตสีของน้ำมันเกียร์ใหม่ๆ สิครับ เขียวใสสวยเลย)
ปิดฝา และประกอบทุกอย่างกลับเข้าไปตามที่เราถอดออกมา รอสัก 5 นาทีให้น้ำมันเกียร์ไหลเข้าไปให้ทั่วถึงแล้วค่อยสตาร์ทรถ เท่านี้ก็เสร็จแล้ว ไม่เกิน 20 นาที!
อย่าลืมติดตามบทความจากบล็อกนี้จากได้ทาง Facebook Page บล็อกนายช่าง และกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมมีแรงทำบล็อกนี้ต่อไปด้วยนะครับ