หมอฟันบอกผมเสมอว่าควรใช้ไหมขัดฟันหรือ Dental floss เป็นประจำเพื่อป้องกันฟันผุ แต่พูดตรงๆ มันใช้ยาก และเสียเวลา ต้องมานั่งเอาไหมขัดระหว่างฟันทีละซี่ๆ จนครบทั้งปาก แถมซี่ในๆ ก็ขัดยาก วันนึงผมเลยไปหาดูว่า มันจะมีวิธีที่ดีกว่านี้ไหม และก็ได้เจอว่า มันมีสิ่งที่เรียกว่า Water Flosser หรือเครื่องฉีดน้ำทำความสะอาดฟัน ซึ่งทันตแพทย์ในต่างประเทศก็ได้แนะนำให้ใช้ทดแทนไหมขัดฟันธรรมดาได้เหมือนกัน เลยลองหาดูว่ามีแบบไหนให้เลือกบ้าง และสุดท้ายก็มาลงเอยที่ Xiaomi อีกแล้ว (Xiaomi มันจะครองโลกแล้ว ทำทุกอย่างจริงๆ) ดังนั้น วันนี้เราจะมารีวิว เครื่องฉีดฟัน Xiaomi Soocas W3 กันครับ

แกะกล่องรีวิว

หน้าตาของแพ็คเก็จก็จะประมาณนี้ เรียบหรูสไตล์ Minimal ดูแล้วชวนนึกถึงกล่องผลิตภัณฑ์ของ Apple

xiaomi water flosser soocas w3 รีวิว

เปิดกล่องออกมาก็จะเจอตัวเครื่องห่อไว้

หยิบเครื่องออกก็จะเป็นกล่องใส่หัวฉีดแบบต่างๆ และสายชาร์จไฟ

xiaomi water flosser soocas w3 แกะกล่อง

xiaomi water flosser soocas w3 อะไหล่

หัวฉีดที่ได้มาจะมี 3 แบบทั้งหมดทำด้วยพลาสติก Food Grade รับรองโดย US FDA ไม่มีสารอันตราย

1. อันซ้ายสุดคือแบบธรรมดา สีขาวๆ ตรงหัวคือเป็นขนแปรง อันนี้จะให้มา 2 อัน
2. อันกลางคือแบบฉีดเส้นเล็ก แรงเป็นพิเศษ เอาไว้ใช้ฉีดเหล็กดัดฟัน แรงสะใจ
3. อันสุดท้ายคือคล้ายๆ ช้อนเอาไว้ล้างลิ้น

xiaomi water flosser soocas w3 หัวฉีด

และนี่คือตัวเครื่องหลังประกอบหัวเข้าไปแล้ว ส่วนตัวคิดว่าถ้าเปลี่ยนสีฟ้าเป็นสีเทาน่าจะสวยกว่านี้ แต่ของแบบนี้มันแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน เครื่องมีมาตรฐานการกันน้ำที่ IPX7 (แช่น้ำได้ 30 นาที ที่ความลึก 1 เมตร) ดังนั้นโดน้ำได้ไม่ต้องกลัวเจ๊ง

ปุ่มกดเพื่อเปลี่ยนหัว กดแล้วจะปลดล็อคให้ดึงหัวฉีดออกมาได้

ถังน้ำจุประมาณ 230 ml ซึ่งเหมือนจะเยอะ แต่ใช้จริงๆ แป๊ปเดียวหมด แต่ด้วยความที่เป็นเครื่องแบบถือด้วยมือ จะให้ถังน้ำใหญ่กว่านี้ก็คงไม่สะดวกแล้วละ

ตรงมือจับจะเป็นช่องต่อสายชาร์จ Xiaomi เค้าเคลมว่าชาร์จ 1 ครั้งใช้ได้ประมาณเดือนนึงเลย (เมื่อใช้งานวันละ 1 นาที)

xiaomi water flosser soocas w3 ที่ชาร์จ

ปุ่มควบคุมจะมี 2 ปุ่ม อันบนคือกดเปิด-ปิด ส่วนอันล่างคือเปลี่ยนโหมดการทำงาน จะมี 3 โหมดคือ

1. ความแรงระดับเบา (Soft Mode) 70-100 PSI
2. ความแรงระดับปกติ (Standard Mode) 100-140 PSI
3. โหมดนวดเหงือก (Massage Mode) 20-100 PSI

xiaomi water flosser soocas w3 รีวิวFvg8

โอเค พูดถึงสเปคกันมาเยอะละ ต่อไปจะเป็นการใช้จริง

การใช้งาน

อ่อ ส่วนนี้ไม่มีรูปนะครับ จะถ่ายเศษผักที่หลุดออกมาจากผากให้ดูก็คงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร 555

อย่างแรกเลยหลังจากการใช้งานจริง ต้องปรับตัวสักพัก เพราะมันกระเด็นไปทั่วเลย ด้วยความที่น้ำมันฉีดแรง ถ้าเราอ้าปากปุ๊บเวลาน้ำกระทบฟันมันจะฟุ้งเป็นละอองไปทั่ว และที่สำคัญ เวลาใช้ต้องก้มหน้า ไม่งั้นน้ำจะไหลลงมาเปียกเสื้อเรา คือต้องใช้ไปสักพักหนึ่งแล้วจะรู้จังหวะมัน ว่าต้องจับยังไงถึงจะฉีดได้ถนัด

ฟังดูเหมือนแย่ใช่ไหม แต่พอผ่านช่วงเรียนรู้แล้วจะบอกว่า มันดีมาก!

คือพอเราแปรงฟันเสร็จ ก็แค่หยิบมันมาฉีดๆ พวกเศษอาหาร เศษผักที่ติดตามซอกฟันจะหลุดออกมาหมดเลย แล้วมันเข้าถึงฟันซี่ในได้ง่ายกว่าใช้ไหมขัดฟันมาก ใช้แค่นาทีเดียวก็ทั่วทั้งปากแล้ว ก็คือลืมไหมขัดฟันไปได้เลย น้ำก็แรงดีมาก แต่กลับไม่เจ็บเหงือกนะแปลกดี ซึ่งพอใช้เป็นแล้วน้ำมันก็ไม่กระเด็นเลอะเทอะละ สำหรับแบตเตอรี่ ตอนนี้ชาร์จครั้งแรก ใช้มา 2 อาทิตย์แล้วก็ยังไม่หมด รอดูว่าจะครบ 1 เดือนไหม

ทีนี้ข้อเสียอย่างแรกที่เจอก็คือ น้ำหมดเร็ว แต่อันนี้เข้าใจได้ อย่างที่สองก็คือหัวฉีดลิ้นที่ให้มา มันไม่ค่อยเวิร์ค ฉีดแล้วมันคุมยาก น้ำไหลลงมาเลอะตัวเอง แล้วก็ไม่ได้รู้สึกสะอาดอะไร เอาแปรงสีฟันแปรงอย่างเดิมดีกว่า

สรุป

คะแนนรวม

ดี แต่ต้องใช้สักพักจนชินกับมันก่อนแล้วจะรู้สึกถึงความดีของมัน ตัวเครื่องราคาประมาณ 900-1000 บาท แต่ถ้าใช้ทุกวัน คิดว่า 1-2 ปี ก็จะคุ้มค่าไหมขัดฟันแล้ว เหมาะมากสำหรับคนที่ขี้เกียจใช้ไหมขัดฟัน หรือคนที่จัดฟัน ข้อเสียก็มีบ้างเล็กน้อย เช่นน้ำหมดเร็ว เครื่องหนักนิดหน่อย แต่ไม่ได้มีผลอะไรกับการใช้งานมากนัก

อย่าลืมติดตามบทความจากบล็อกนี้จากได้ทาง Facebook Page บล็อกนายช่าง และกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมมีแรงทำบล็อกนี้ต่อไปด้วยนะครับ