พอดีซื้อทีวีใหม่มา ไหนๆ ก็ไหนๆ อยากได้ลำโพงเสียงดีๆ เลยตัดสินใจซื้อ Soundbar มาด้วยเลย พอดีซื้อทีวีของ Samsung ก็เลยดูซาวน์บาร์ของ Samsung จะได้เหมือนๆ กัน เวลาเชื่อมต่อจะได้ไม่มีปัญหา พอดีเจอรุ่น T400 ลดราคาอยู่ ราคาถูกดี ไม่ถึง 2 พัน เลยลองสอยมาดู วันนี้จะมารีวิวให้ฟัง แบบสั้นๆ 555
รีวิว Samsung Soundbar T400
สเปคคร่าวๆ ของ T400 คือ
– ลำโพงทั้งหมด 4 ตัว แต่เป็น 2.0 Channel นะ
– Sub Woofer Built-in อยู่ 2 ตัว
– กำลังสูงสุด 40W
– รองรับ Bluetooth, NFC, Optical Cable, USB Drive และ Aux (3.5mm)
– ขนาด (กว้าง x ยาว x สูง) 712.0 x 180.0 x 170.0 (mm)
หลังจากสั่งไป รอของ 1 วันก็มาถึง หน้าตากล่องก็จะประมาณนี้
ข้างในมีโฟมกันกระแทก อุปกรณ์ต่างๆ ถูกห่อมาในถุงพลาสติกตามปกติ
Content ในกล่องทั้งหมดก็จะมีดังนี้
– T400 Soundbar
– คู่มือ
– ใบรับประกัน
– สาย Aux (3.5mm)
– สาย Optical
– รีโมทควบคุม (มีถ่านแถมมาให้ด้วย ใจดีจริงๆ)
ข้อเสียอย่างแรกของรุ่นนี้คือ ไม่รองรับการเชื่อมต่อแบบ HDMI ARC ดังนั้นถ้าคุณไปเสียบทีวีที่ไม่ใช่ Samsung ต้องลุ้นเอาว่า ทีวีเครื่องนั้นจะรองรับการ เปิด-ปิด Soundbar ด้วยตัวเองหรือเปล่า ถ้าไม่รองรับ แปลว่าคุณจะต้องกดเปิด Soundbar เองทุกครั้งเมื่อเปิดทีวี แต่ถ้าใช้ Samsung ก็ไม่มีปัญหา สามารถใช้ Optical Cable ได้
สำหรับการเชื่อมต่อ Bluetooth ก็ไม่มีอะไรยาก เหมือนๆ กันกับการ Pair Bluetooth Headset ทั่วๆ ไป แต่ถ้ามือถือของคุณรองรับระบบ NFC สามารถเอามือถือไปวางแปะบนสัญลักษณ์ NFC (จุดสีขาวๆ ตรงกลางลำโพง) ได้เลย แล้วจะทำการ Pair/Connect ให้อัตโนมัติ อันนี้ยอมรับว่าสะดวกจริง เวลาอยากจะเปิดเพลงจากมือถือ
นี่คือรีโมทที่ให้มา สามารถปรับ Volume และ Bass ได้ ปรับโหมดเสียงเป็นแบบธรรมดาและ Surround ได้ รวมถึงเลือกโหมดการเชื่อมต่อได้ เช่นสลับไป Bluetooth หรือเปลี่ยนกลับมา Optical ที่เสียบกับ TV อยู่ (ปุ่ม D.IN)
ข้อเสียอีกอย่างที่เจอคือ ไม่มีสถานะของ Volume หรือ Bass บอกว่าปรับไปถึงเท่าไหร มีแค่ไฟกระพริบเวลาปรับขึ้นลง และไฟสีแดงเพื่อบอกว่าปรับไปสุด Min-Max แล้วเท่านั้น น่าหงุดหงิดพอสมควร แต่ราคาถูกนี่นะ ทำไงได้
คุณภาพเสียง
ซื้อ Soundbar ก็ต้องพูดถึงคุณภาพเสียง….
เอาสั้นๆ คือไม่ค่อยโอเค ดีกว่าลำโพงที่ติดมากับทีวีนิดหน่อย เสียงในช่วงกลางค่อนข้างขาดมิติและรายละเอียด เบสดังพอใช้ได้แต่ยังไม่หนักแน่นเท่าที่ควร เสียงในโหมด Surround ที่ถูกจำลองด้วย DTS Algorithm ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึก Wide อย่างที่หวังไว้ ถือว่าผิดหวังหน่อยๆ
แต่อย่าลืมว่านี่คือ Soundbar ในราคาต่ำ 2 พัน ดังนั้นก็พอให้อภัยได้…นิดนึง
สรุป
Samsung Soundbar T400 ถือว่าให้ความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อ ด้วยการที่รองรับหลายพอร์ตรวมถึง NFC ทำให้เล่นเพลงจากมือถือได้ง่ายขึ้น แต่ด้วยคุณภาพเสียงที่ต่ำกว่ามาตรฐาน ทำให้ไม่ค่อยกล้าแนะนำให้เลือกรุ่นนี้เท่าไหร เพราะลำโพงที่ให้มากับทีวีก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก
อย่าลืมติดตามบทความจากบล็อกนี้จากได้ทาง Facebook Page บล็อกนายช่าง และกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมมีแรงทำบล็อกนี้ต่อไปด้วยนะครับ
