wireless-extender-tplink-re200-review-1

ไม่นานมานี้ผมต้องไปพักที่โรงแรมต่างจังหวัดประมาณ 5 วัน ซึ่งผมก็เอา notebook ไปด้วยเพื่อทำงานและเล่น internet โดยตั้งใจจะใช้ Wifi ของโรงแรม แล้วก็ได้เจอกับปัญหาโลกแตกก็คือ Wifi สัญญาณอ่อน ทำให้ต่อได้บ้าง หลุดบ้าง net ช้าบ้าง

แน่นอน เราเตอร์ของโรงแรมมักจะตั้งอยู่กึ่งกลางของชั้น ซึ่งเมื่อเราอยู่ห้องที่ห่างออกมาแล้วปิดประตูห้อง จะไปปิดทางเข้าของสัญญาณ Wifi ทำให้สัญญาณอ่อน จะพอต่อได้บ้างก็ต้องไปนั่งอยู่กับพื้นใกล้ๆ ประตูห้อง (อนาถดีแท้) ด้วยความที่ต้องอยู่หลายวัน เลยตัดสินใจต้องหาทางแก้ไข ก็เลยไปซื้อตัวขยายสัญญาณ Wifi (Range Extender) มา ซึ่งก็ได้มาเจอกับตัวนี้ TP-Link RE200

ถามว่าที่เลือกซื้ออันนี้เพราะมันดีกว่ายี่ห้ออื่นเหรอ คำตอบคือเปล่า เผอิญต่างจังหวัด ตัวเลือกมีไม่มาก อันนี้ถูกสุดเท่าที่หาได้แล้วก็ต้องซื้อมา 555+

แพ็คเก็จและสเปค

กล่องที่ใส่มามีความแข็งแรง ดูดี แต่เอาจริงๆ ผมไม่ค่อยสนใจตรงนี้เท่าไหร สิ่งที่เป็นสาระสำคัญคือของข้างในใช้งานดีไหมต่างหาก

wireless-extender-tplink-re200-review-5

เมื่อแกะออกมา สิ่งที่อยู่ภายในกล่องก็คือตามนี้

wireless-extender-tplink-re200-review-6

RE200 รองรับ Wifi แบบดั่งเดิมคือระบบ 802.11 b/g/n และใหม่คือ 802.11 ac ทั้ง 2.4 Ghz และ 5 Ghz แต่ด้วยความที่เป็นรุ่นล่างสุดที่รองรับแบบ AC ก็เลยได้ความเร็วแค่ 750 Mbps กินไฟประมาณ 6.5W หรือเท่ากับหลอด LED เล็กๆ 1 หลอด

wireless-extender-tplink-re200-review-2

ตัวเครื่อง Design ได้ค่อนข้างแข็งแรง ด้านหน้าเป็นพลาสติกเงา ลายตารางสวยดี มีไฟสถานะบอก พร้อมปุ่ม WPS สำหรับต่อ Router แบบรวดเร็วไม่ต้อง setup (คือกดปุ่ม WPS บน router จากนั้นมากดปุ่ม WPS ที่เจ้า RE200 ก็สามารถใช้ขยายสัญญาณได้ทันที ไม่ต้องทำอะไรอีก) ด้านล่างจะมีปุ่ม reset และ port LAN มาให้สำหรับให้อุปกรณ์อื่นๆ มาต่อเข้าได้ แต่เพราะเป็นรุ่นถูกเลยได้ความเร็วแค่ 100 Mbps

wireless-extender-tplink-re200-review-3

ด้านหลังจะเป็นปลั๊กเสียบ และ Serial Number

wireless-extender-tplink-re200-review-4

TP-Link RE200 จะไม่มีเสาอากาศยื่นออกมาให้เห็นแบบรุ่นอื่นๆ

wireless-extender-tplink-re200-review-1

การใช้งาน

การทดลองนี้ผมลองเอาไปเสียบไว้ที่ปลั๊กที่อยู่ใกล้กับประตูห้องโรงแรมมากที่สุด พอเสียบเข้าไป เครื่องจะปล่อยสัญญาณ Wifi ออกมาชื่อ TP_link_extender_2.4Ghz และ TP_link_extender_5Ghz ให้เรา connect อันใดอันหนึ่ง แล้วเข้าไปตั้งค่าผ่าน Browser เพื่อเลือก Network ที่เราต้องการจะขยายสัญญาณ สำหรับผมก็เลือก Wifi ของโรงแรมนั่นเอง จากนั้นเครื่องก็จะสร้าง Network มาอีกอันให้เราเข้าไปเชื่อมต่อ

เช่นสมมุติ Wifi ของโรงแรมชื่อ Hotel_wifi เครื่องก็จะสร้าง network ใหม่ชื่อ Hotel_wifi_extended (จะตั้งชื่อเองก็ได้) ซึ่งพอเราเชื่อมต่อ network ใหม่นี้ ก็จะมีค่าเท่ากับเชื่อมต่อกับ Wifi ของโรงแรม แต่สัญญาณจะแรงกว่ามาก เพราะมันถูกกระจายมาจากตัว extender ที่อยู่ใกล้เรา

ไฟสัญญาณที่เห็นเป็นสีเขียว แสดงว่าเครื่องรับสัญญาณได้ดี ถ้าสัญญาณอ่อนจะเห็นเป็นสีแดงแปลว่าให้เราย้ายเครื่องไปใกล้ Wifi มากว่านี้

จากนั้นผมลองทำงานและใช้งาน internet ก็พบว่าเสถียร เครื่องสามารถจับสัญญาณ Wifi อ่อนๆ ของโรงแรมได้ดีมาก จะลองดู Youtube หรือ Streaming ก็ไม่มีปัญหา ตัวเครื่องจะร้อนหน่อยๆ เวลาทำงานเหมือนกับ router แต่ลองเสียบไว้หลายๆ วันก็ยังใช้งานได้ดี ไม่มีปัญหาสัญญาณหลุด

ส่วนสัญญาณที่ขยายออกมานั้นแรงและไกลมาก เอาเป็นว่าผมเสียบในห้อง แล้วลงไปนั่งเล่นที่ริมชายทะเลมือถือยังจับสัญญาณที่ขยายออกมาได้ (ทำให้ผมต้องรีบไปซ่อน Network ไม่ให้แสดงออกมา ไม่งั้นเดี๋ยวแขกคนอื่นในโรงแรมจะพากันมาต่อเข้า RE200 ของผมกันหมด)

สรุป

ข้อดี

+ จับสัญญาณได้ดีมาก
+ ขยายสัญญาณได้ไกล
+ ออกแบบทนทาน

ข้อเสีย

– แพงไปนิด
– เครื่องยาว ทำให้เวลาเสียบไปบังปลั๊กอีกช่องและใช้งานไม่ได้
– กั๊กความเร็วไว้ที่ 750Mbps (Wifi) และ 100Mbps (LAN)

กลายเป็นเดี๋ยวนี้จะไปเที่ยวที่ไหนผมจะพกตัวนี้ไปด้วยเสมอ จะได้ไม่ต้องมีปัญหา Wifi หลุดสัญญาณอ่อนเพราะอยู่ห่าง Router/ Access Point สำหรับราคา 750 บาท ผมว่าแพงไปนิด ถ้าสัก 500 บาทจะกำลังดี อย่างรก็ตาม ถือว่าเจ้า TP-Link RE200 ตอบโจทย์ของผมได้ดีพอสมควร แต่ถ้าคุณไม่สนใจว่าจะต้องการการรองรับ AC ละก็ ลองไปดูของ Xiaomi Wifi Repeater ได้เพราะราคาถูกว่ากันเกือบครึ่ง

อย่าลืมติดตามบทความจากบล็อกนี้จากได้ทาง Facebook Page บล็อกนายช่าง และกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมมีแรงทำบล็อกนี้ต่อไปด้วยนะครับ