[รีวิว] เครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ราคาถูก

รถที่บ้านผมคันหนึ่ง ไม่ค่อยได้ใช้งาน ประมาณ 4-5 วันถึงจะได้สตาร์ทที ซึ่งก็ไม่ได้ไปไหนไกล วิ่งแปปเดียวก็ต้องจอดอีกแล้ว

รถที่มีการใช้งานลักษณะนี้ แบตเตอรี่จะเสื่อมเร็วมาก เพราะชาร์จไฟไม่ได้เต็มที่ ปีเดียวก็เริ่มมีอาการไฟตก สตาร์ทช้าแล้ว

วิธีแก้ง่ายๆ คือซื้อเครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์มาใช้ ซึ่งปัจจุบันมีหลายรุ่นที่ราคาถูกมากให้เลือก ราคาตั้งแต่ 500-3000 บาท

แล้วเลือกยี่ห้อไหนดี?

จริงๆ แล้วหลักการของเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ก็ไม่มีอะไรมาก แค่จ่ายกระแสไฟ DC ประมาณ 14-15V เข้าไป ดังนั้นราคาที่แตกต่างกัน จะไปเล่นที่ Option เสริมมากกว่า เช่น มีโหมดฟื้นฟูแบตเตอรี่ หรือที่เรียกว่า Desulfation มีโหมดตรวจและทดสอบสอบไฟแบตเตอรี่ สามารถเสียบชาร์จทิ้งไว้ตลอดเวลาได้โดยไม่ต้องถอดออก รองรับแบตเตอรี่ลูกที่ใหญ่ขึ้น เป็นต้น (ถามว่าจำเป็นไหม จริงๆ แล้วแทบไม่ได้ใช้งานในส่วนที่ว่าเลย 5555)

ในโพสนี้ก็จะลองมารีวิวเครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อ Foxsur ราคาประมาณ 500 บาท กันดู (สั่งมาจากจีน) ว่าใช้งานจริงแล้วเป็นอย่างไร

อันนี้คือกล่องที่ใส่ตัวเครื่องมา ก็ดูดีใช้ได้ (สำหรับของราคา 500 บาท)

ที่นี้เราลองวัดไฟของแบตเตอรี่ก่อนชาร์จ จะเห็นว่าไฟตกแล้ว เหลือแค่ 12V นิดๆ จริงๆ ควรได้ราวๆ 12.4-12.8V

ลองชาร์จดูเลย วิธีใช้ก็ง่ายๆ เอาปากคีบสีแดงคีบขั้วบวก สีดำคีบขั้วลบ จากนั้นเสียบปลั๊ก

พอเสียบแล้วเครื่องก็จะเริ่มชาร์จ หน้าจอบอกว่าชาร์จด้วยกระแส 5.1A ลองใช้ Smart Plug ที่มีวัดไฟดูว่า ขณะชาร์จกินไฟบ้านไปเท่าไหร ก็พบว่าประมาณ 75W ถือว่าตรงกับตัวเลขหน้ากล่องที่บอกไว้ว่าชาร์จด้วยกระแสไฟ 5A (จากสูตร P =IV เอา 75W หาร 5A = 14.7V) ขณะชาร์จก็จะมีพัดลมทำงานระบายความร้อนในตัวเครื่องออก

แต่ๆๆๆ

เครื่องนี้มีหน้าจอดิจิตอลที่คอยวัดไฟแบตเตอรรี่อยู่ปรากฏว่า ส่วนที่เป็น Voltage มันวัดได้ไม่ตรงเลย คือเพี้ยนไปเลย (ในส่วนกระแสไฟยังวัดได้ค่อนข้างตรงอยู่) อย่างตอนนี้วัดจริงได้ 14V แต่เครื่องบอกว่า 12.1V ซะงั้น ซึ่งแบบนี้จะมีปัญหาก็คือ เครื่องจะไม่รู้ว่าแบตเต็มหรือยัง และจะชาร์จไปเรื่อยๆ ซึ่งแบตจะเสียหาย หรือถึงขั้นระเบิดได้

ก็คือ มันก็ยังสามารถใช้ชาร์จแบตได้จริง แต่เราต้องอย่าลืมไปถอดมันออก โดยดูจากกระแสไฟ ตอนเริ่มชาร์จจะประมาณ 5A ถ้ามันลดลงเหลือสัก 1A แปลว่าแบตใกล้เต็มแล้ว ถอดออกได้ (แบตเตอรรี่ เมื่อใกล้เต็มจะมีความต้านทานสูงขึ้น ทำให้ไฟเข้าได้น้อยลง)

นอกจากโหมดชาร์จธรรมดา เครื่องนี้ยังมีโหมดฟื้นฟู (ที่เรียกกันว่า Desulfation หรือ Pulse Charge) คือเป็นการชาร์จด้วยกระแสไฟเป็นคลื่นๆ (จ่ายไฟสูงสลับต่ำ ไปเรื่อยๆ) การทำแบบนี้จะช่วยให้ผลึก Sulfate ที่เกาะกับแผ่นธาตุภายในแบตหลุดออก เพิ่มประสิทธิภาพให้กับแบตเตอรี่ วิะีใช้ก็แค่กดปุ่ม Repair ตรงกลาง หน้าจอจะขึ้นคำว่า PUL

แต่… ในทางปฏิบัติ การทำ Desulfate ต้องทำนานๆ เป็นวันถึงจะเห็นผลชัดเจน ซึ่งดูจากคุณภาพของเครื่องนี้แล้ว ผมคงไม่ไว้ใจเสียบมันทิ้งข้ามคืนแน่ๆ เอาเป็นว่าใช้ชาร์จธรรมดาอย่างเดียวละกัน

สรุป

คุณภาพก็ตามราคา หน้าปัดวัดดิจิตอลมีความคลาดเคลื่อนมาก (น่าจะเกิดจากการใช้วงจรราคาถูก) ไม่สามารถเสียบชาร์จทิ้งไว้ได้ เพราะเครื่องไม่รู้สถานะของแบตว่าไฟเต็มหรือยัง สามารถใช้งานชาร์จได้ แต่ต้องคอยมาดูและถอดปลั๊กออกเอง รวมถึงโหมด Desulfate/Repair ที่ไม่แน่ใจว่าจะได้ผลจริงหรือไม่ เอาเป็นว่า ถ้าใครมีงบ ลองดูรุ่น/ยี่ห้ออื่น ที่มีราคาแพงขึ้นมาอีกสักหน่อยน่าจะะสบายใจกว่า

อย่าลืมติดตามบทความจากบล็อกนี้จากได้ทาง Facebook Page บล็อกนายช่าง และกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมมีแรงทำบล็อกนี้ต่อไปด้วยนะครับ