ถ้าเราดูจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาจะพบว่า วิกฤตเศรษฐกิจของโลกครั้งใหญ่ๆ จะมาทุกๆ 10 ปี เช่น ต้มยำกุ้งตอนปี 40 วิกฤตซับไพร์มหรือแฮมเบอร์เกอร์ตอนปี 51 แต่ผมต้องยอมรับว่าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าวิกฤตรอบนี้จะมาเพราะโคโรน่าไวรัส ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นค่อนข้างรุนแรง โดยเฉพาะธุรกิจในกลุ่มการท่องเที่ยว สายการบิน และน้ำมัน แต่ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ และในโพสนี้ ผมจะมาพูดถึงธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์จากการะบาดของ Corona Virus หรือ Covid 19 ครับ
1. บริษัทผลิตยาวัคซีนและเครื่องมือแพทย์
อันกับ 1 ที่ได้รับประโยชน์จากวิกฤตครั้งนี้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยก็คือกลุ่มบริษัทผลิตยาและวัคซีน เนื่องจากความต้องการยา Remdesivir ที่สามารถใช้ลดความรุนแรงของเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ ซึ่งยาตัวนี้พัฒนาโดยบริษัท Gilead Science ซึ่งตั้งแต่การระบาดของโรคเริ่มรุนแรงและแพร่ออกมานอกประเทศจีน ราคาหุ้นของ Gilead ปรับตัวขึ้นไปถึง 20-30%
แต่ที่น่าตื่นเต้นไปกว่าน้นคือ บริษัทที่วิจัยวัคซีนอย่าง Novavax Inc. นั้นราคาปรับตัวขึ้นไปสูงถึง 4 เท่า!!! ใช่ครับ 4 เท่า เมื่อมีการประกาศว่าบริษัทจะมีการจับมือร่วมกันพัฒนาวัคซีนกับบริษัทยาในประเทศจีน (ในภาพเห็นว่า -9% เพราะวันต่อๆ มาราคาหุ้นปรับตัวลงหลังจากขึ้นไปเยอะมากแล้ว)
และเนื่องไวรัสตอนนี้ได้กระจายไปทั่วโลกแล้ว ความต้องการของยาต้านและวัคซีนก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ และคงจะเป็นแบบนี้ไปอีกอย่างน้อยก็ 1-2 ปี เรียกได้ว่าจากเดิมที่ธุรกิจดำเนินไปเรื่อยๆ ก็มีส้มหล่นมาใส่แบบงงๆ
2. บริษัทผลิตสบู่ล้างมือและน้ำยาทำความสะอาด
หนึ่งในการป้องกันการติดเชื้อโควิด 19 ที่ได้ผลดีก็คือการล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ล้างมือ จึงไม่ต้องสงสัยว่าสบู่เหลวล้างมือขายดีเป็นเทน้ำเทท่า นอกจากนี้พวกกลุ่มน้ำยาทำความสะอาด น้ำยาถูพื้นก็ขายดีมากเช่นกัน ถ้าเราเห็นข่าวสถานที่ต่างๆ ที่มีผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ ก็จะต้องรีบทำความสะอาดกันยกใหญ่โดยพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ถ้าเราไปตามห้างช่วงนี้จะเห็นว่าสบู่เหลวและน้ำยาถูพื้นเกลี้ยงไม่เหลือ และคงเป็นแบบนี้ไปอีกสักพักจนกว่าการระบาดจะควบคุมได้
3. Food Delivery
ยิ่งมีมาตรการกักกัน หรือถึงขั้น lock down ประเทศ ธุรกิจที่ยิ่งขายดีก็คือ Food Delivery เพราะทุกคนยังไงก็ต้องกินอาหาร ช่วงที่ประเทศจีนทำการปิดประเทศ Food Delivery เจ้าต่างๆ ขายดีมาก บางเจ้าถึงขั้นมีใบรับรองใส่มาในแพ็คอาหารเลยว่าพนักงานที่ประกอบอาหารและแพ็คของนั้นไม่มีไข้ และภาชนะได้ทำการฆ่าเชื้อแล้ว ซึ่งหวังว่าประเทศไทยคงไม่ระบาดไปจนถึงขั้นนั้น
4. Content Streaming
แน่นอน เมื่อคนถูกบังคับให้อยู่บ้านนานๆ ก็ต้องเบื่อเป็นธรรมดา ซึ่งกิจกรรมที่ให้ทำก็คงหนีไม่พ้นดู Netflix, YouTube หรือถ้าเป็นคอเกมส์ก็ดู Twitch ดังนั้นธุรกิจ Streaming ต่างๆ จะมียอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นมาในช่วงนี้ และยังรวมไปถึงพวกผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับ Internet ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ISP (ที่ลูกค้าอาจจะขออัพเกรด Package) และพวก Cloud Service provider ที่มีรายได้เพิ่มขึ้นจาก Internet traffic
5. Teleconference
หลายบริษัทพยายามให้พนักงานทำงานที่บ้านเพื่อช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อระหว่างการเดินทาง หรือแพร่เชื้อในที่ทำงาน ซึ่งสิ่งที่จำเป็นมากในการ work from home ก็คือเครื่องมือในการสื่อสารที่ดี จึงเป็นโอกาสของบริษัทผู้ผลิต Software สำหรับทำ Video Conference และ Team Communication ตัวอย่างเช่น Zoom ซึ่งเป็น Video-conferencing Software ที่เป็นเจ้าตลาด (หุ้นปรับตัวขึ้นสูงถึง 67% ตั้งแต่ต้นปี) หรือ Citrix ผู้วางระบบ Virtual Desktop ให้คนสามารถ Remote เข้าไปยังคอมพิวเตอร์ที่ทำงานจากที่บ้านได้ หรือที่หลายคนอาจจะได้เคยลองใช้แล้วคือ Slack ซึ่งเป็น Software ไว้สำหรับ Chat ในองค์กร
ยังไงก็ตาม Covid 19 คงอยู่กับเราไปอีกหลายเดือน อย่าลืมป้องกันตนเอง หลีกเลี่ยงที่ชุมชนหรือที่ที่อากาศปิดและใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ จนกว่าวัคซีนจะพัฒนาสำเร็จครับ
อย่าลืมติดตามบทความจากบล็อกนี้จากได้ทาง Facebook Page บล็อกนายช่าง และกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมมีแรงทำบล็อกนี้ต่อไปด้วยนะครับ
