เทรด Option ต่างประเทศ IBKR

ปกติแล้วผมลงทุนในต่างประเทศผ่านโบรกเกอร์ที่อยู่ในไทยมาตลอด อย่างที่ได้เคยเขียนไว้ในโพสที่แล้ว แต่หลังจากใช้บริการมาได้ 2 ปี ข้อจำกัดที่เจอก็คือ ค่าคอมแพงมากๆ ตกเทรดละ $32 (ราวพันบาท) และที่สำคัญที่สุดคือ เทรด Option อเมริกาไม่ได้ (เน้นว่าโพสนี้จะกล่าวถึง Option ของหุ้นรายตัวนะครับ ไม่ใช่ Binary Option ซึ่งอันนั้นผมมองเป็นการ Bet มากกว่าการลงทุน)

การเทรด Option ต่างประเทศนั้นมีข้อดีหลายอย่างมากๆ ถึงแม้คุณจะไม่ได้เป็นนักลงทุนสไตล์เก็งกำไรก็ตาม ตัวอย่างเช่น เราสามารถป้องกันความเสี่ยง หรือ Hedge พอร์ตของเรา ในยามที่ตลาดไม่เป็นใจได้โดยการซื้อ Put option ของหุ้นที่เราถืออยู่ หรือถ้าเราต้องการลงทุนระยะยาวในหุ้นตัวหนึ่ง แต่เงินทุนเรามีน้อย เราสามารถซื้อ Call ที่มีระยะ expire ยาวๆ (หรือที่เรียกกันว่า LEAP Call) แทนการซื้อหุ้นตรงๆ ได้

แต่ปัญหาคือโบรก Offshore ในประเทษไทย ไม่มีที่ไหนให้บริการนี้เลย (อย่างน้อยก็เท่าที่ผมทราบมา ณ ตอนเขียนโพสนี้) ดังนั้นวิธีเดียวที่จะซื้อ Option ต่างประเทศไทย เราจะต้องเปิดพอร์ตกับโบรกต่างประเทศเท่านั้น ซึ่งผมก็หาข้อมูลมาหลายเจ้า และสุดท้ายมีคนแนะนำโบรกนึงมาก็คือ Interactive Brokers (เรียกสั้นๆ ว่า IBKR)

ที่เลือก IBKR เพราะเป็นโบรกที่เปิดมานานพอสมควร และเป็นบริษัทจดทะเบียนมหาชนในตลาดหลักทรัพย์อเมริกา ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องความน่าเชื่อถือเท่าไหรนัก นอกจากนี้ยังอนุญาตให้เราเทรด instrument ต่างๆ ได้หมด ไม่ว่าจะเป็น หุ้น/ Options/ Commodity/ Forex/ Future/ Bonds และอื่นๆ อีกมากมาย และที่สำคัญ ค่า Fee ถูก มีขั้นต่ำแค่ $1 เท่านั้น (ยิ่งถ้าเป็นคนอเมริกันนี่ฟรีเลย)

วิธีการเปิดบัญชี

การเปิดบัญชี สามารถทำผ่านหน้าเว็บได้เลย ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรทั้งสิ้น พอร์ตเล็กก็เปิดได้ กรอกรายละเอียดตามหน้าเว็บให้ครบถ้วน สำหรับเอกสารที่ต้องใช้จะมี 2 ประเภท คือ เอกสารใช้ยืนยันตัวตน กับเอกสารที่ใช้ยืนยันที่อยู่อาศัย โดยจะใช้การถ่ายรูปหรือ scan เอาก็ได้

สำหรับเอกสารยืนยันตัวตนของคนไทย ใช้บัตรประชาชนจะง่ายที่สุด หรือ Passport ก็ได้ครับ

เอกสารใช้สมัคร IBKR

ปัญหาที่เจอ จะไปอยู่ที่เอกสารยืนยันที่อยู่ แม้ IBKR จะอนุญาตให้ใช้ Bank Statement หรือ Credit Card Statement ในการยืนยันที่อยู่ได้จริง แต่ธนาคารของประเทศไทยนั้นไม่ได้อยู่ในกลุ่มสมาชิกต่อต้านการฟอกเงินนานาชาติ ดังนั้น IBKR จึงมองว่าธนาคารของเราไม่น่าเชื่อถือ และจะ Reject เอกสารของเรากลับมา ตัวเลือกอื่นๆ ที่สามารถใช้ได้ ก็จะมีบิลค่าน้ำ ค่าไฟ หรือเอกสารที่ทางรัฐบาลไทยออกให้เรา เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน ซึ่งก็เจอปัญหาอยู่ดีว่า ทุกอย่างเป็นภาษาไทยหมด ดังนั้นทาง IBKR เค้าอ่านไม่รู้เรื่อง และจะ reject กลับมาอยู่ดี

วิธีแก้ก็คือ ต้องแปลเอกสารให้เค้าด้วย ผมเลือกใช้สำเนาทะเบียนบ้าน ถ่ายหน้าแรก และหน้าที่มีชื่อเราอยู่ จากนั้นใช้ Photoshop หรือโปรแกรมแต่งภสพอะไรก็ได้ ใส่คำแปลของแต่ละบรรทัดไปให้เค้าด้วย ว่านี่ชื่อเราอยู่ตรงนี้ อันนี้คือที่อยู่ สุดท้ายถึงจะผ่าน

แปลเอกสาร ส่งสมัคร IBKR

ระหว่างที่เรารอการ approve จะสามารถ Login เข้าระบบไปใช้ demo platform ได้ ถือว่าซ้อมมือไปก่อน ขั้นตอนทั้งหมดที่ผมใช้เวลาในการเปิดพอร์ตตั้งแต่ต้นจนจบก็จะประมาณ 1 อาทิตย์พอดี (ไม่มีการโทรศัพท์มาคุย)

ค่าธรรมเนียม

ค่าธรรมเนียมในการเทรด Option Contract ละประมาณ $0.65 แต่มีขั้นต่ำที่ $1 ส่วนหุ้นจะถูกกว่านี้ แต่ก็มีขั้นต่ำที่ $1 เช่นกัน

สำหรับระบบที่เราใช้ จะเป็น IBKR Pro ซึ่งจะมีค่าธรรมเนีนมเดือนละ $10 และจะ Waive ต่อเมื่อมีการเทรดจนค่าคอมเกิน $10 หรือพอร์ตใหญ่เกิน $100,000 ซึ่งอาจจะฟังดูแพงสำหรับคนพอร์ตเล็ก แต่เอาจริงๆ ถ้าใช้โบรก Offshore ในไทยที่ค่าคอมแพงๆ ไม้ละพันกว่าบาท เทรดแค่ 3 ครั้งก็เท่ากับ Fee IBKR ทั้งปีแล้ว

สำหรับ IBKR Lite นั้นจะฟรีค่าธรรมเนียมรายเดือนแต่ สงวนสิทธิสำหรับคนอเมริกันเท่านั้น -*-

วิธีเติมเงินเข้า IBKR

สําหรับคนไทย เราจะใช้วิธีโอนตรง (Wire) เข้าบัญชีของ IBKR ผ่านระบบ Swift transfer ซึ่งจะ
มีค่าธรรมเนียมการโอนประมาณ 500-800 บาท แล้วแต่ธนาคาร สําหรับผมลองใช้ SCB แล้วมี

ปัญหานิดหน่อยเพราะไม่ยอมให้เราโอนผ่าน Swift ไปอเมริกาจาก SCB Easy App ได้ เลยต้อง
เปลี่ยนไปใช้ TMB แทน (แต่เท่าที่หาข้อมูลมา KBank ก็น่าจะใช้ได้เหมือนกัน)

โอนเงินเข้าพอร์ต IBKR

วิธีโอนทําได้ไม่ยาก ขั้นแรกให้เรากด Deposit ในหน้า Account ของเราบนเว็บ IBKR ใส่ชื่อ
บัญชี และเลขบัญชีไทยของเรา ที่จะโอนเงินไป เสร็จแล้ว IBKR จะโชว์รายละเอียดของบัญชีที่
อเมริกาที่เราต้องโอนเงินเข้าไปให้

จากนั้นกด App TMB Touch ขึ้นมา กดเมนู โอนเงินเข้าบัญชีต่างประเทศ จากนั้นให้กรอกข้อมูล
ตามที่ IBKR โชว์ไว้ จากนั้นรอดําเนินการ ประมาณครึ่งวัน เงินจะเข้าระบบพร้อมเทรด

Platform การเทรด Option

เราสามารถโหลดโปรแกรมเทรด Trader Workstation มาลงเครื่องแล้วเทรดได้ หน้าตาก็จะประมาณข้างล่างนี้ ใช้งานยากนิดหน่อย แต่พอชินแล้วก็โอเค แต่ถ้าใครมือใหม่ชอบแบบง่ายๆ ไม่รก ก็เทรดบนเว็บได้เหมือนกัน

เทรดหุ้นผ่าน IBKR

นี่คือหน้าจอ Option Chain View ของ Trader Workstation เราสามารถเลือก Column ที่จะเอามาโชว์ได้ตามต้องการ

เทรด Option ต่างประเทศ IBKR

Data ทุกอย่างที่โชว์บนจอจะ Delay 15 นาทีเสมอ ถ้าเราไม่ได้จ่ายเงินเพื่อ Subscribe Data เพิ่ม แต่เราสามารถกดปุ่ม Snapshot เพื่อดึงราคา Realtime มาได้ตอนที่เราจะเทรด ซึ่งจะเสียครั้งละ $0.03 สำหรับ Option และ $0.01 สำหรับราคาหุ้น

ปัญหาที่เจอ

โดยรวม IBKR ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมาก นอกจากระบบหลุดจาก Server แบบภาพข้างล่างนี่ โดนหมดไม่ว่าจะเป็น TWS หรือเทรดผ่านเว็บก็ตาม

เปิดบัญชี IBKR

ปัญหา IBKR

อีกอย่างนึงจะเจอกับระบบเทรดบนเว็บก็คือ ข้อมูลไม่ยอมดึงมา ปล่อยให้หน้าจอเอ๋อๆ แบบนี้

ปัญหา IBKR ค้าง

สรุป

การย้ายมาใช้โบรกนอกนี่ข้อดีเยอะมากๆ ใครย้ายได้ ย้ายด่วน พอร์ตไม่ใหญ่ก็เปิดได้ ค่าคอมถูก
สุดๆ จะติดข้อเสียเล็กน้อยก็คือ ค่า Fee รายเดือนนี่แหละ แต่ถ้าคนที่ตั้งใจจะเทรดประจําอยู่แล้ว
ไม่มีปัญหาเพราะ Waive ได้ จริงๆ แล้วผมได้ยื่นเปิดบัญชีไปกับอีกเจ้านึงด้วย ก็คือ TD Ameritrade ที่ Singapore ซึ่งเจ้านี้ข้อดีคือค่าคอมฟรีหมดสําหรับการเทรดหุ้น และไม่มีรายเดือน แต่เค้าจะดําเนินการช้ามาก จนทุกวันนี้ผมก็ยังเปิดไม่ได้สักที

อย่าลืมติดตามบทความจากบล็อกนี้จากได้ทาง Facebook Page บล็อกนายช่าง และกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมมีแรงทำบล็อกนี้ต่อไปด้วยนะครับ