ด้วยความที่ผมซื้อ Flash Drive มาเพราะมันลดราคา เก็บไว้นานละเพิ่งมีโอกาสได้เอามาใช้ แต่พอได้ลอง Copy File จริงๆ แล้วมันดันช้ามากกกกกก ได้ความเร็วน้อยกว่าที่เขาโมษณาไว้เยอะเลย ก็แปลกใจเอ๊ะมันพังหรือว่าเราเข้าใจอะไรผิดยังไง เสียบพอร์ต USB 3.0 ก็แล้ว พอมาค้นข้อมูลก็เลยถึงบางอ้อ ว่าไอ้ความเร็วที่เค้าเขียนๆ กันหน่ะ มันเป็น ความเร็วสูงสุดในทางทฤษฏี แต่ความเป็นจริงแล้ว ไม่มีทางถึงแน่นอน  (แต่จะว่าหลอกก็ไม่ได้ เพราะเค้าอุตส่าห์มีดอกจันเล็กๆ บอกไว้ เราไม่อ่านให้ดีเอง -*-) ในโพสนี้ เราก็จะมาสรุปถึง 6 สาเหตุที่ทำให้ Flash Drive ของคุณ Copy File ได้ช้ากันครับ

1. ความร้อน หรือ Thermal Throttle

เวลา copy หรืออ่านข้อมูลบน Flash Drive นานๆ ย้อมมีความร้อนเกิดขึ้น ซึ่งเป็นธรรมดาสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด แต่คราวนี้ถ้าตัว Flash Drive ออกแบบมาไม่ดี ความร้อนระบายออกไม่ได้ก็จะทำให้เกิดความร้อนสะสมมากๆ จนถึงจุดที่ร้อนจัด ตัว Flash Drive ก็จำเป็นจะต้องลดความเร็วลงมา เพื่อไม่ให้มันพังไปซะก่อน ซึ่งเรียกว่า “Thermal Throttle” มักจะพบบ่อยใน Flash Drive รุ่นที่มีขนาดๆ เล็ก และมี body เป็นพลาสติก (พลาสติกนำความร้อนไม่ค่อยดี)

flash drive ช้า 1

วิธีดูว่ามีปัญหานี้เกิดขึ้นหรือไม่ ก็ง่ายๆ ถ้าเราเห็นว่าความเร็วมันวิ่งมาดีๆ แล้วจู่ๆ ก็ตกลง ให้ลองเอามือจับดู ถ้ามันร้อนจี๋ละก็ใช่แน่ๆ (แต่ถ้าอุ่นๆ นี่เป็นปกตินะครับไม่ต้องตกใจ) ซึ่งถ้าเป็นจริงๆ ก็ทำอะไรไม่ได้ เอาเป็นว่าซื้ออันใหม่ ก็ให้เลือกรุ่นที่มี body เป็นอะลูมิเนียม จะได้ระบายความร้อนดีๆ

2. เสียบผ่าน USB Hub

จริงๆ ในทางทฤษฏีเนี่ยมันไม่ควรจะช้าลง แต่ว่าจากการลองใช้จริงเจอบ่อยว่ามันช้าลง โดยเฉพาะ USB Hub ถูกๆ ซึ่ง Hub บางอันถูกมากๆ นี่ก็อปไปไฟล์พังก็มี ดังนั้นลงทุนสักนิด

และถึงแม้เราจะใช้ Hub ของดี แต่อย่าลืมว่า Bandwidth ทั้งหมดของ Hub นั้นจะถูกแชร์รวมกับอุปกรณ์อื่นๆ ทั้งหมด ดังนั้นถ้ามีอุปกรณ์อื่นๆ เสียบอยู่ด้วยละก็ ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมความเร็วมันตก 555+

วิธีที่ดีที่สุดก็คือเสียบ Flash Drive เข้ากับ Mainboard (ดานหลังเครื่องคอม) เลยนั่นเอง

3. Copy ไฟล์พร้อมกันหลายไฟล์

Copy ไฟล์ขนาด 100 MB 1 ไฟล์ กับ ไฟล์ขนาด 1 MB 100 ไฟล์นั้นไม่เหมือนกัน ยิ่งจำนวนไฟล์เยอะๆ จะทำให้ยิ่งช้า เพราะการก็อปแต่ละไฟล์จะต้องมีกระบวนการในการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม วิธีแก้ก็คือให้ zip ไฟล์ทั้งหมดรวมเป็นก้อนเดียวซะ แล้วค่อย copy ไปยัง Flash Drive ก็จะช่วยได้มาก

4. Copy ไฟล์ใหญ่มากๆ

เคยไหม เวลาก็อปไฟล์ใหญ่มากๆ (ขนาด 1-2GB ขึ้นไป) ช่วงแรกๆ ก็เร็วดีอยู่หรอก แต่พอผ่านไปสักพัก ความเร็วตกฮวบเลย นั่นเป็นเพราะว่า ช่วงแรกตั้งแต่เราออกคำสั่ง Copy นั้น Windows จะไม่ได้ write ลง Flash Drive โดยตรง แต่จะ write ลง cache อารมว่าฝากไว้ก่อน ค่อยๆ ทยอย write ทีหลัง ดังนั้นบางทีเวลาเราดึง Flash Drive ออกทันทีหลังก็อปไฟล์เสร็จใหม่ๆ ไฟล์อาจจะพังได้ เพราะ ข้อมูลบางส่วนที่อยู่ใน cache ยังถูก write ไม่หมด

ทีนี้พอเราก็อปไฟล์ใหญ่มากๆ เนี่ย พอก็อปไปสักพัก cache จะเต็มก่อน พอเต็มปุ๊บทีนี้ก็คือความเร็วของจริงแล้ว เราเลยเห็นว่าความเร็วมันตกฮวบ

flash drive ช้า 4

ซึ่งนี่คือการทดลองโดยใช้โปรแกรม CrystalDiskMark โดยลองทดสอบความเร็ว Read/Write กับไฟล์ขนาด 100 MB และ 1 GB จะเห็นว่า ไฟล์ขนาดใหญ่ช้ากว่าถึง 2 เท่ากว่าๆ

flash drive ช้า 2

flash drive ช้า 3

ปัญหานี้คงแก้ไขอะไรไม่ได้ นอกจากเปลี่ยนไปซื้อรุ่นที่แพงขึ้น หรือไม่ก็ไปใช้ External Harddisk เลย

5. เครื่องเราช้าเอง

คือปัญหานี้บางทีเราก็คาดไม่ถึงนะ บางครั้งเราสั่ง copy ไฟล์จากเครื่องคอมเก่าๆ เนี่ย Harddisk วิ่งไม่ทัน Flash Drive (อ่านข้อมูลไปเขียนไม่ทัน) ปัญหานี้มักเจอในคอมรุ่นเก่าๆ โดยเฉพาะ notebook รุ่นที่ไม่ได้ใช้ SSD เพราะ Harddisk นอกจากจะช้าแล้ว ยังมีปัญหาเรื่อง Fragmentation ด้วย ถ้าเราลองเอา Flash Drive ของเราไปใช้กับเครื่องคอมใหม่ๆ แล้วมันเร็วดีไม่มีปัญหาละก็ แสดงว่าถึงเวลาเปลี่ยนคอมละ

6. Flash Drive ราคาถูก

ตอนที่เราก็อปปี้ไฟล์เนี่ย วงจรควบคุมที่อยู่ภายใน Flash Drive จะต้องประมวลผลข้อมูลจำนวนมากๆ ซึ่งถ้าเราใช้รุ่นถูกๆ ก็มักจะได้วงจรควบคุมและชิปหน่วยความจำที่ทำจากวัสดุคุณภาพต่ำ ซึ่งทำให้ต้องจำกัดความเร็วในการอ่านและเขียนเพื่อป้องกัน Error ที่อาจเกิดขึ้น (เวลาเกิด Error ก็คือ ไฟล์พัง ก็อปแล้วเปิดไม่ได้)

ซึ่งเดี๋ยวนี้ราคา Flash Drive ก็ถูกลงมากแล้ว ถ้าเรายอมลงทุนเพิ่มขึ้นอีกสักนิด หลีกเลี่ยงการซื้อรุ่นถูกสุด ไปซื้อรุ่นที่ดีขึ้นมาหน่อย ก็น่าจะคุ้มค่ากว่า อย่าลืมว่า ถูก เร็ว ดี ไม่มีอยู่จริง

อย่าลืมติดตามบทความจากบล็อกนี้จากได้ทาง Facebook Page บล็อกนายช่าง และกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมมีแรงทำบล็อกนี้ต่อไปด้วยนะครับ